15 ที่เที่ยวในภูเก็ต ใครไม่ได้ไปถือว่าไปไม่ถึง
1. วัดฉลอง
“วัดฉลอง” หรือ “วัดไชยธาราราม” วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดภูเก็ต เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อ “หลวงพ่อแช่ม” หรือ “พระครูวิสุทธิองศาจารย์ญาณมุณี” พระ ครูผู้เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวเมืองภูเก็ต จากเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์และคุณความดีของหลวงพ่อแช่มวัดฉลอง ในการเป็นที่พึ่งให้แก่ชาวบ้านในการต่อสู้กับพวกอั้งยี่ (พวกจีนที่ก่อการกบฏ) โดยท่านได้มอบผ้าประเจียดสีขาวให้ชาวบ้านทุกคนโพกหัวเพื่อเป็นขวัญและกำลัง ใจในการต่อสู้จนชนะพวกอั้งยี่ได้ (ตอนนั้นพวกอั้งยี่เรียกชาวบ้านว่า “พวกหัวขาว”) ภายหลังรัชกาลที่ 5 จึงโปรดเกล้าพระราชทานสมณะศักดิ์แก่หลวงพ่อแช่มวัดฉลองเป็นพระครูวิสุทธิ วงศาจารย์ญาณมุนี ซึ่งท่านก็เป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาของชาวภูเก็ตตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แวะไปสักการบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองกันได้ทุกวัน รับรองอิ่มบุญอิ่มใจกันถ้วนหน้าแน่นอน
ที่อยู่ : 70 บ้านฉลอง ถนนเจ้าฟ้า หมู่ที่ 6 ตำบลฉลอง อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น.
2. วัดพระทอง (พระผุด)
“วัดพระทอง” หรือ “พระผุด” ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในวิหาร มีลักษณะเป็นพระครึ่งองค์ โดยมีประวัติความเป็นมาว่า “พระผุด” คือ พระพุทธรูปทองคำจากเมืองจีน มีอายุราว ๆ 2,000 ปี ชาวทิเบตนำลงเรือมาทางมหาสมุทรอินเดีย แต่เกิดพายุโหมซัดเรือเข้ามายังฝั่งพังงาและเกิดจมลง ต่อมาเกิดฝนตกหนักน้ำท่วมเซาะดินจนเห็นเป็นพระเกตุมาลาโผล่พ้นเหนือพื้นดิน ขึ้นมา และเมื่อเจ้าเมืองทราบได้มีการสั่งการให้ขุดพระพุทธรูปขึ้นมาประดิษฐานไว้ บูชา แต่ไม่สามารถขุดขึ้นมาได้ เพราะบางคนถูกตัวต่อตัวแตนอาละวาดเป็นพิษถึงแก่ความตาย เจ้าเมืองจึงสั่งให้ทำที่มุงที่บังเป็นสถานที่กราบไหว้เรื่อยมา ชาวบ้านจึงเรียกว่ากันพระผุด เพราะเป็นพระพุทธรูปที่ผุดขึ้นมาจากพื้นดินโดยมีความสูงประมาณ 1 ศอก ซึ่งคนจีนเรียกว่า “ภูปุ๊ค” (พู่ฮุก) และเมื่อถึงเทศกาลตรุษจีน คนจีนในภูเก็ต พังงา ตะกั่วป่า ท้ายเหมือง และกระบี่ จะพากันมานมัสการเป็นประจำจนถึงทุกวันนี้
ที่อยู่ : หมู่ที่ 7 ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00-17.30 น.
3. แหลมพรหมเทพ
แหล่งท่องเที่ยว ฮอตฮิตที่ใครต่อใครต่างต้องไปเยือนเมื่อไปถึงจังหวัดภูเก็ต โดยรอบมีทัศนียภาพที่สวยงาม อีกทั้งยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ไทยเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของประภาคารกาญจนาภิเษก โดยสุดปลายของแหลมพรหมเทพ มีชื่อว่า “แหลมเจ้า” บริเวณตัวแหลมซึ่งยื่นออกไปในทะเล โดดเด่นด้วยต้นตาลที่ยืนตระหง่านเกาะกลุ่มกันอยู่อย่างสวยงาม ฉะนั้นใครที่อยากชมแสงสุดท้ายของวันที่สวยที่สุด…ต้องมาที่นี่ !
ที่อยู่ : ราไวย์ เมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ห่างจากตัวเมืองประมาณ 19 กิโลเมตร ห่างจากหาดราไวย์เลี้ยวขวาไปประมาณ 2 กิโลเมตร
4. จุดชมวิวเขารัง
เป็นเนินเขาที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองภูเก็ตทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ สามารถนำรถยนต์ขึ้นไปถึงยอดเขาได้ โดยขับขึ้นไปตามถนน “คอซิมบี้” ได้ เลย ด้านบนสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเกาะภูเก็ตได้อย่างชัดเจน ทั้งหลังคาตึกเก่า สะพานหิน อ่าวฉลอง หาดราไวย์ ฯลฯ เรียกได้ว่าสามารถชื่นชมความงดงามของเมืองภูเก็ตได้ถึง 360 องศาเลยทีเดียว และโดยเฉพาะในยามค่ำคืนที่นี่จะโรแมนติกมากเป็นพิเศษ เนื่องจากจะสามารถมองเห็นแสงไฟระยิบระยับของบ้านเมืองด้านล่างได้อย่างสวยงามประทับใจสุด ๆ
ที่อยู่ : จากที่ว่าการอำเภอมาทางถนนแม่หลวน จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนคอซิมบี้ไปจนสุดทาง หรือจะเข้าจากถนนวชิระข้างโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตก็ได้
5. อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร
สถานที่ ศักดิ์สิทธิ์ที่เมื่อมาถึงภูเก็ตแล้วไม่แวะมาสักการะถือว่ามาไม่ถึง เป็นอนุสาวรีย์สองสตรีผู้กล้าแห่งเมืองถลาง หรือที่รู้จักกันในนาม “คุณหญิงจัน คุณหญิงมุก” ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ในชุดโจงกระเบน สวมเสื้อแขนกระบอก ห่มตะเบงมาน มือทั้งสองถือดาบ โดยมีประวัติเล่าว่าในช่วง พ.ศ. 2328 ประเทศไทยถูกพม่ารุกรานโดยศึกครั้งนั้นเรียกกันว่า “สงครามเก้าทัพ” และมีทัพหนึ่งของพม่าบุกมาทางภาคใต้หมายจะตีเมืองถลางให้สำเร็จ ขณะนั้นเจ้าเมืองถลางสามีของคุณหญิงจันเพิ่งเสียชีวิตลงทำให้เมืองถลางขาด ผู้นำ คุณหญิงจันและคุณหญิงมุกผู้เป็นน้องจึงอาสาเป็นผู้บัญชาการรบด้วยตัวเอง โดยได้ออกอุบายลวงพม่าให้ผู้หญิงในเมืองถลางราว 500 คน แต่งตัวเลียนแบบชายชาตรี และแสร้งทำเป็นว่าถือดาบ โดยให้เอาไม้ทองหลางเคลือบดีบุกถือต่างอาวุธ และทำทีจัดขบวนไพร่พลเดินตระเวนและประชุมพลถ่ายเทคนเข้าออกให้เห็นว่าทัพไทย มีพลกำลังเสริมเข้ามาตลอดเวลา ทำให้พม่าลังเลใจที่จะเข้าตี และด้วยระยะเวลาที่ยาวนานส่งผลให้กองทัพพม่าขาดเสบียงอาหาร บาดเจ็บล้มตายเป็นประจำทุกวัน ส่งผลให้กองทัพปั่นป่วนและสูญเสียทหารไปมากกว่า 400 คน ท้ายที่สุดพม่าจึงตัดสินใจยกทัพกลับไป ซึ่งนับเป็นวีรกรรมที่น่าเชิดชูยิ่งนัก ไหน ๆ ก็มาถึงเมืองภูเก็ตกันแล้วควรหาเวลาไปสักการะท่านทั้งสองกันสักครั้ง
ที่อยู่ : บ้านท่าเรือ ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
6. ย่านเมืองเก่าตึกแถวโบราณ อาคารชิโน-โปรตุกีส
ย่านรวมตึกเก่าโบราณสไตล์ชิโน-โปรตุกีส คุณจะพบกับเสน่ห์ของตัวอาคารที่สร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 5 ตกแต่งด้านหน้าอาคารด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรปอย่างสวยงาม มีร้านขายผ้าปาเต๊ะ ผ้าลูกไม้ ร้านกาแฟ โรตีมะตะบะ และอีกมากมายให้แวะกันอย่างจุใจ นอกจากนี้ยังสามารถเดินชมซุ้มโค้งแบบโรมัน บานหน้าต่าง ช่องแสงลวดลายเรขาคณิตยุคอาร์ตเดโคสุดสวย ฯลฯ และอยากแนะนำให้แวะ“ซอยรมณีย์” ที่อดีตเคยเป็นซอยบันเทิง ซึ่งปัจจุบันถูกตกแต่งด้วยสีสันสวยงามน่าถ่ายรูปสุด ๆ ต่อด้วย “อังมอเหลา” คฤหาสน์แบบนีโอคลาสสิก & เรอเนสซองส์ ของตระกูลนายเหมืองเก่า ปิดท้ายด้วยแวะเก็บภาพที่สถานที่ยอดฮิตอย่าง “ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด” “ศูนย์รวมข่าวพรหมเทพ” และ “โรงแรมออนออน” รับรองว่าคุณจะหลงรักเมืองนี้เข้าอย่างจัง
ที่อยู่ : อำเภอเมือง บริเวณถนนถลาง ถนนดีบุก ถนนเยาวราช ถนนพังงา และรอบๆ
7. พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว
ตึกเก่าสไตล์ชิโน-ยูโรเปียน อดีตโรงเรียนจีนเก่าแก่ ภายในเป็นแหล่งรวมเรื่องราวของชาวจีนโพ้นทะเลที่อพยพเข้ามาพักพิงอยู่ในเขต ตลาด มีการจัดแสดงนิทรรศการที่น่าสนใจทั้งสิ้น 14 ห้อง โดยแนะนำให้เดินดูตั้งแต่ห้องที่ 1 ซึ่งเป็นห้องที่มีวีดิทัศน์บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางของชาวจีน ฮกเกี้ยน กวางตุ้ง ไหหลำ จากถิ่นกำเนิดสู่ภูเก็ตสายสัมพันธ์กับแผ่นดินแม่ สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมตั้งแต่เริ่มก่อร่างสร้างตัวสัมมาอาชีพและภูมิปัญญา อาทิ การทำเหมืองแร่ สวนยางพารา วัฒนธรรมการกินอยู่ การสร้างบ้าน เครื่องแต่งกาย ประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ ตลอดจนศึกษาแบบอย่างของผู้ประสบความสำเร็จ รวมไปถึงประวัติโรงเรียนและครูใหญ่คนสำคัญ
ที่อยู่ : 28 ถนนกระบี่ ตำบลตลาดเหนือ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต 83000
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
8. บ้านชินประชา
เป็นบ้านเก่าแก่สไตล์ชิโน-โปรตุกีสที่มีอายุกว่า 100 ปี ซึ่งสร้างขึ้นเป็นแห่งแรกของเกาะภูเก็ตเลยก็ว่าได้ บ้านหลังนี้เป็นบ้านของตระกูลตัณฑวณิช โดยเจ้าของได้อนุรักษ์ตัวอาคารและเครื่องเรือนเครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในบ้านไว้เป็นอย่างดี เพื่อให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของภูเก็ตผ่านการ ใช้ชีวิตของชาวภูเก็ตในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา ซึ่งลักษณะของบ้านมีความโดดเด่นตรงที่เป็นบ้านสองชั้น ประตูบ้านลงรักปิดทอง มีอักษรจีน มีหน้าต่างไม้หลายบาน ภายในบ้านเย็นสบายอากาศถ่ายเทสะดวก เนื่องจากตรงกลางบ้านเปิดโล่งเพื่อระบายอากาศ อีกทั้งยังมีสระน้ำเล็ก ๆ อยู่กลางบ้านเป็นมุมที่น่าสนใจไม่น้อย ในส่วนของพื้นบ้านก็ถูกปูด้วยกระเบื้องจากอิตาลีลวดลายสวยงามสุด ๆ นอกจากนี้ยังมีบันไดไม้ลวดลายสวยงาม เครื่องเรือนส่วนใหญ่ก็เป็นไม้ฝังมุกนำเข้าจากเมืองจีน อีกทั้งยังมีเครื่องใช้ เครื่องครัวโบราณ ภาพถ่าย และภาพวาดในอดีตที่สวยงามมากมายที่รอให้คุณมาสัมผัส ส่วนท่านใดที่สนใจแต่งกายแบบคนภูเก็ตสมัยก่อนที่เรียกว่า “การแต่งกายแบบบาบ๋า ย่าหยา” ที่นี่เขาก็มีให้ลองใส่ด้วยนะจ๊ะ เก๋สุด ๆ
ที่อยู่ : อำเภอเมือง ทางเข้าอยู่ริมถนนกระบี่ ติดกับ Blue Elephant Restaurant
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. (วันอาทิตย์ปิดเวลา 14.30 น.)
โทรศัพท์ : 0 7621 1281, 0 7621 1167
9. หาดกมลา
ชายหาดยอดฮิตที่อยู่ถัดลงมาทางใต้ของหาดสุรินทร์ มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร เงียบสงบ เป็นส่วนตัว นอกจากนี้ที่นี่ยังมีอนุสรณ์สถานสึนามิ เป็นประติมากรรมชื่อว่า “จิตจักรวาล” ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อสะท้อนถึงพิบัติภัยคลื่นยักษ์ที่เคยเกิดขึ้นที่ชาดหาด แห่งนี้ และสื่อถึงแรงหมุนของโลกและการปรับเปลี่ยนของธรรมชาติเพื่อความสมดุล ส่วนในบริเวณทางเหนือของหาดยังมีที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอย่างครบครัน เหมาะแก่การเดินทางมาพักผ่อนอย่างยิ่ง
ที่อยู่ : อำเภอกะทู้ ริมทางหลวง 4233 จากหาดสุรินทร์ไปทางทิศใต้ 2 กิโลเมตร เข้าทางโรงเรียนบ้านกมลา หรือ สภ.ต.กมลา
10. หาดป่าตอง
ชายหาดยอดนิยมอีกแห่งที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเกาะภูเก็ต มีหาดทรายสีขาวละเอียด เหมาะสำหรับลงเล่นน้ำและทำกิจกรรมทางทะเล โดยในทุก ๆ ปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาพักผ่อน นอนอาบแดด และเล่นน้ำทะเลกันอย่างล้นหลาม นอกจากนี้บริเวณรอบ ๆ หาดจะมีร้านค้า ร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวก รวมไปถึงแหล่งบันเทิงยามค่ำคืนไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยวมากมาย เรียกได้ว่ามาที่นี่รับรองไม่มีเหงา ใครสนใจก็แวะมาเช็กอินริมหาดกันได้เลย
ที่อยู่ : อำเภอกะทู้ ริมถนนทวีวงศ์ (ทางหลวง 4233) จากตัวเมืองมาตามทางหลวง 4029 ผ่านวัดสุวรรณคีรีวงก์ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนราษฎร์อุทิศ 200 ปี จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนประชานุเคราะห์
11. หาดกะรน
ชายหาดขึ้นชื่อสำหรับนักท่องเที่ยวที่แสวงหาความสบาย ชอบความครึกครื้น โดยหาดกะรนเป็นชายหาดที่ยาวที่สุดในเกาะภูเก็ต มีเม็ดทรายสีขาวและละเอียดมาก เหมาะแก่การทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่จะนิยมมาพักผ่อน นอนอาบแดด เดินเล่นชิล ๆ ผ่อนคลายสบายอารมณ์ ทั้งนี้หาดกะรนสามารถลงเล่นน้ำได้ แต่ในบางจุดก็อันตราย ควรสังเกตธงสีเหลือง-แดงก่อนลงเล่น นอกจากนี้บริเวณชายหาดยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งแหล่งช้อปปิ้ง ร้านค้า สถานบันเทิง ตั้งอยู่บริเวณวงเวียนด้านขวาสุดของหาดให้เลือกใช้บริการกันอย่างเต็มที่อีก ด้วย
ที่อยู่ : อำเภอเมือง จาดหาดป่าตองลงมาทางทิศใต้ ตามทางหลวง 4233 (ทางขึ้นเขาประมาณ 3 กิโลเมตร)
12. หาดกะตะน้อย หาดกะตะใหญ่
2 หาดยอดนิยมที่ขึ้นชื่อในเรื่องความเงียบสงบและสวยงาม โดยหาดกะตะน้อยเป็นชายหาดเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์สวยงามน่าหลงใหล มีหาดทรายสีขาวละเอียดนุ่มเท้า น่าลงเล่นน้ำ ส่วนหาดกะตะใหญ่ก็มีความสวยงามไม่แพ้หาดกะตะน้อย โดยเป็นแหล่งทำกิจกรรมทางน้ำยอดนิยม ทั้งกระดานโต้คลื่น พาราเซล เจ็ทสกี ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ สถานที่พัก บริษัท นำเที่ยว ร้านค้า แหล่งบันเทิงต่าง ๆ ไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยวมากมาย สนใจมาใส่บิกินี่อวดโฉมกันได้นะจ๊ะสาว ๆ
ที่อยู่ : อำเภอเมือง จากตัวเมืองมาถึงห้าแยกฉลอง เลี้ยวขวาไปตามทางหลวง 4028 จะถึงหาดกะตะน้อยก่อน ขับขึ้นมาทางทิศเหนือประมาณ 5 นาทีก็จะถึงหาดกะตะ
13. พระพุทธมิ่งมลคลเอกนาคคีรี
“พระพุทธมิ่งมลคลเอกนาคคีรี” หรือ “วัดพระใหญ่” เป็น ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะภูเก็ตเลยก็ว่าได้ โดยองค์พระงดงามไปด้วยศิลปะร่วมสมัย ประดับผิวด้วยหินอ่อนหยกขาวจากประเทศพม่า โดยหินอ่อนขาวมีน้ำหนักราว ๆ 135 ตัน เลยทีเดียว ซึ่งนับเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่ตั้งตระหง่านสูงเด่นเป็นสง่าอยู่บน ยอดเขาที่มีความสวยงดงามมากจริง ๆ นอกจากนี้บริเวณด้านบนนักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสกับทัศนียภาพที่สวยงาม ของเวิ้งหาดกะตะ แหลมพรหมเทพ เกาะแก้วพิสดารได้อย่างสวยงามอลังการอีกด้วย
ที่อยู่ : 42/14 หมู่ 2 ถนนเทพกระษัตรี ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 83000
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-19.00 น.
โทรศัพท์ : 08 1891 3827, 0 7623 9190, 0 7623 8470, 08 1925 4754
14. ภูเก็ตแฟนตาซี
เป็นอาณาจักร มหัศจรรย์ที่รวบรวมความบันเทิงสุดยิ่งใหญ่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมไทย โดยมีส่วนสำคัญคือ การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยผสมผสานเทคโนโลยีระดับโลก “มหัศจรรย์กมลา” ณ โรงละครวังไอยรา ที่สามารถจุจำนวนนักท่องเที่ยวได้ถึง 3,000 ที่นั่ง “ภัตตาคารมโนห์ราทอง” ที่พร้อมให้บริการอาหารบุฟเฟ่ต์ทั้งไทยและนานาชาติ โดยสามารถจุจำนวนนักท่องเที่ยวได้ถึง 4,000 ที่นั่ง อลังการงานสร้างสุด ๆ นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านหรรษา แหล่งรวมสินค้าหัตถกรรมไทย และกิจกรรมบันเทิงต่าง ๆ อีกมากมาย สามารถแวะมาชมมหัศจรรย์ความบันเทิงสุดอลังการนี้ได้ ตระการตาสุด ๆ ขอบอก
ที่อยู่ : 99 หมู่ 3 ตำบลกมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต 83150
เวลา เปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันพฤหัสบดี (หากวันพฤหัสบดีตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์อาจเปิดให้บริการตามปกติ) ตั้งแต่เวลา 17.30-23.30 น.
15. Phuket Simon Cabaret
อาณาจักรความบันเทิงยามค่ำคืนที่จัดแสดงโชว์สุดตื่นตาตื่นใจของสาว ๆ ชาวเลดี้บอย ที่พร้อมพานักท่องเที่ยวก้าวเข้าสู่โลกแห่งเทพนิยาย ด้วยโชว์และเครื่องแต่งกายสุดอลังการที่มีการผสมผสานวัฒนธรรมไทยเข้ากับศิลปะการแสดงของชาติอื่น ๆ ได้อย่างลงตัว ซึ่งการแสดงแต่ละชุดสามารถเรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมได้ไม่น้อย ทั้งการร่ายรำอันอ่อนช้อยแบบไทย ๆ การลิปซิงค์ระดับมืออาชีพ ฯลฯ ภายใต้บรรยากาศสุดอลังการพร้อมฉากสวยงามตระการตา ใครที่มาภูเก็ตแล้วไม่แวะมาดูระวังจะเสียใจนะจ๊ะ
ที่อยู่ : 8 ถนนสิริราชย์ อำเภอป่าตอง จังหวัดภูเก็ต 83150
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน วันละ 3 รอบ เวลา 18.00 น. 19.45 น. และ 21.30 น.